วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

เลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ-เชี่ยวชาญ

ไฟเขียวเกณฑ์ใหม่เลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ-เชี่ยวชาญเอื้อครูมีผลงานเด่นระดับชาติ


เมื่อวันที่ 5 มกราคม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการก.ค.ศ.ว่า ที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ในสายงานการสอน สายงานบริหารสถานศึกษาสายงานบริหารการศึกษา และสายงานนิเทศก์การศึกษา โดยการขอประเมินวิทยฐานะในเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องให้ส่วนราชการต้นสังกัดเป็นผู้ขอ ซึ่งผู้ที่จะได้รับการพิจารณาต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐานวิทยฐานะ มีภาระงานการสอนขั้นต่ำ/ภาระงานตามที่ส่วนราชการกำหนด และปฏิบัติงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบเช่นเดียวกับผู้ขอรับการประเมินวิทยฐานะ ว17/2552 มีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพ โดยต้องเป็นผลงานประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังนี้มีผลงานดีเด่นที่ครูได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ผลงานดีเด่นที่เป็นที่ยอมรับจากส่วนราชการต้นสังกัดระดับกรมขึ้นไป และมีผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนที่สอดคล้องกับผลงานที่ดีเด่น

ประธานคณะกรรมการ ก.ค.ศ.กล่าวว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับการเสนอชื่อไม่ต้องจัดทำผลงานทางวิชาการในรูปแบบเอกสารเต็มรูปแบบ แต่ให้เขียนรายงานเกี่ยวกับผลงานดีเด่นที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ในหัวข้อปัญหาคืออะไร ปฏิบัติอย่างไร ผลเป็นอย่างไร ต่อไปจะทำอย่างไร โดยให้เขียนรายงานไม่เกิน 50 หน้ากระดาษเอ 4 สำหรับการประเมินจะมี 3 ด้าน คือ
ด้านที่ 1.ด้านวินัย คุณธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
ด้านที่ 2 ด้านความรู้ ความสามารถ และ
ด้านที่ 3 ด้านผลการปฏิบัติงาน
ส่วนการประเมินจะมีคณะกรรมการประเมิน 2 ชุด ประกอบด้วยคณะกรรมการชุดที่ 1 ประเมินด้านที่ 1. และ2.และคณะกรรมการชุดที่ 2 จะประเมินด้านที่ 3.ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดที่ 2 จะมีกรรมการประเมินจำนวน 5 คนต่อผู้ขอ1 ราย ซึ่งจะเน้นการประเมินผลการพัฒนาคุณภาพในการปฏิบัติงานและผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ ใช้รายงานของผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเสนอประกอบการพิจารณา และจะทำการประเมิน ณ สถานที่ปฏิบัติงานของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ซึ่งการประเมินทั้ง 3 ด้านไม่สามารถพัฒนาหรือปรับปรุงได้ เว้นแต่รายงานเกี่ยวกับผลงานดีเด่นที่ประสบความสำเร็จ สามารถให้ปรับปรุงให้สมบูรณ์ได้

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการก.ค.ศ.ได้มอบหมายให้สำนัก งาน ก.ค.ศ.ไปจัดทำคู่มือการเตรียมความพร้อมจัดตั้งกรรมการประเมินให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนจากนั้นให้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการก.ค.ศ.พิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะประกาศใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวในปีนี้
"ร่างหลักเกณฑ์ที่ออกมาถือเป็นของขวัญให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผมเชื่อว่าจะทำให้เพื่อนครูได้วิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยร่างเกณฑ์นี้จะครอบคลุมข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย" นายชินวรณ์กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น